ครั้งนี้ มากับเพื่อนบล๊อกเกอร์ แต่ทานข้าวเย็นมาแล้ว เลยแค่ชิมๆ สิ่งที่ยังไม่ได้ทาน 

Bluefin tuna with avocado 
อร่อยค่ะ ทูน่าเป็นชิ้นลูกเต๋า สด หวาน ทานพร้อมอโวคาโด้ และซอสมิโสะ มันๆ เค็ม ตัดเปรี้ยวนิดๆ อร่อยมากค่ะ เข้ากันลงตัว

Cold cappelini with crab and mentaiko 390.-
เมนูนี้เจ้าของร้านทำมาให้ เสิร์ฟมาแบบเย็น คลุกกับปูและไข่กุ้ง เผ็ดเล็กน้อย อร่อยค่ะ รสชาติเบาๆ เส้นเหนียวหนุ่มกำลังดี 

ที่เหลือจะเป็นเซตเมนูเดิม ก็เลยไม่ได้ชิม ^^

ร้านนี้ มาทานกับพี่สาว บล๊อคเกอร์ท่านนึง
มาชิมอาหารที่จะเปิดตัวเดือนหน้าค่ะ เป็นเซต 9 courses ของเชฟที่ร้าน ที่ตั้งใจดีไซน์สุดๆ

บรรยากาศ 
โรแมนติกมากๆ ไม่ใช่แค่การตกแต่ง แต่แม้กระทั่งเพลง ก็ฟังแล้ว ชิลมากๆ 
หนุ่มๆ คนไหนลงทุนกับพีร้านนี้ เอาแค่บรรยากาศ ก็ให้ใจแล้วล่ะค่ะ !! 55555

บริการ
ทันใจ รวดเร็วและ เก๋ตรงคอยมาแนะนำอาหารว่าส่วนผสม ทำไมถึงดีไซน์ออกมาแบบนี้
เรื่องวัตถุดิบก็อธิบายละเอียด มากๆ 

รสชาติ
คือเยอะจานมาก !!!!
รสชาติอร่อย รู้สึกถึงความละเอียดอ่อนของเชฟที่พิถีพิถันในการปรุงแต่ง ทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงาม และรสชาติที่ละมุน ละเอียดอ่อนในทุกๆ จาน
** ก่อนเริ่มคอร์ส เค้าจะมี welcome drink มาเสิร์ฟค่ะ แต่เค้าจะเปลี่ยนเมนูเรื่อยๆนะคะ

9 courses มีดังนี้ค่ะ
- Chef's Amuse-Bouche
เป็นออเดิร์ฟที่เชฟดีไซน์และเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ตามวัตถุดิบและใจของเชฟ 5555
จะเป็นน้ำผลไม้ มาคู่กับเมนูที่ทานได้ใน 1 คำ

- Hokkaido scallop & Fresh Gazpacho
เนื้อหอยเชลล์ขนาดกลาง ความสุกระดับ Medium rare เพราะถ้าสุกกว่านี้จะเหนียวเหมือนทานหนังสติ๊ก ด้านล่างเป็น Green apple ที่ฝอยเป็นชิ้นเล็กๆ ทานคู่กับซอสมะเขือเทศที่ปรุงจากมะเขือเทศสด จึงยังคงความหวานและสดชื่นอยู่ค่ะ ตอนเสิร์ฟ พนักงานจะตัก Olive oil snow ที่ทำให้ดึงความเข้มข้นของจานนี้ขึ้นมาอีกค่ะ

**จริงๆ จะมีเมนู Bluefin tuna ขั้น แต่เนื่องจากหาอโวคาโด้ที่ใช้เป็นวัตถุดิบไม่ได้ เลยเว้นค่ะ
- 62 celsius Onsen egg
จานนี้ จะออกครีมมี่เลย ไข่ออนเซน เค้าทำมาให้อุณหภูมิตามชื่อค่ะ แต่เค้าจะมีวิธีทำของเค้าที่ใช้เวลานานถึง 1.5 ชั่วโมง !! จนได้ไข่ออนเซนที่ไม่ได้เจาะแล้วไหล แต่เป็นครีมมี่ข้นๆ ทำให้ตอนทานกับซอส จะครีมมี่สุดๆ นุ่มละมุนลิ้น หวาน ทานพร้อมกับเห็ด Shiitake และเบคอน

- Mc'n Cheese duo of Ravioli
อันนี้ น่าตามาน่ารักเลยค่ะ เป็นเหมือนเกี๊ยวคู่ เวลาทาน แนะนำให้ทานคู่กัน เพราะชิ้นนึงจะเป็นไก่ที่ผสมสมุนไพร อีกชิ้นเป็นชีส 3 ชนิด อร่อยค่ะ มันนนๆ นุ่มนวล

- Refresher
มาถึงตรงนี้ เค้าจะให้ break รสชาติในปากด้วย granita ผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อเตรียมลิ้นไว้ทานจานหลักแล้วค่ะ

- Slow-braise Wagyu beef cheek
อันนี้ จานเด่นของคอร์สนี้ค่ะ เพราะชิ้นเนื้อทำมาจากแก้มหมูซึ่งเค้าบอกว่าเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด ตุ๋รจนเปื่อยแต่ไม่เละ ไม่ต้องใช้มีดเลยค่ะ แค่ส้อมก็แยกชิ้นได้เลย ทานคู่กับ Radish สีขาว และซอสกระเทียมสีดำ ละเลียดเลยค่ะ จานนี้ 

- Miel Pommes Confit
มาถึงของหวานกัน ด้านล่างเป็นแอปเปิ้ลคล้ายๆ เนื้อแอปเปิ้ลในพาย ทานคู่กับ ice cream วนิลาที่นำเข้ามา เนื้อเข้มข้นมาก รสด้วยซอสราสเบอร์รี่ และmango chip อร่อย เข้มข้น เข้ากันได้ดี

- Mocha
สุดท้าย ล้างปากด้วย mocha ที่ใส่Marsh mallow มาให้ 2 ก้อนใหญ่ๆ (พีไม่ได้ทาน เพราะไม่ทานกาแฟ เลยเปลี่ยนเป็นชาค่ะ)

โดยรวม อร่อย รู้สึกถึงความปราณีต 
ใครหาที่ทำโรแมนติกกับแฟน หรือสังสรรค์กับเพื่อน ประชุมงานธุรกิจ เชิญที่นี่ได้เลยนะคะ ^^